ความเคลื่อนไหว

ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก เพื่อเข้าแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหากรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ในวันที่ 3 กันยายน 2561

ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเพื่อเข้าแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหากรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ในวันที่ 3 กันยายน 2561

ด้วยกรรมการนโยบาย องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท) จะมีผู้ดำรงตำแหน่งครบตามวาระ จำนวน 4 ตำแหน่ง คือ ด้านกิจการสื่อสารมวลชน 2 ตำแหน่ง ด้านการบริหารจัดการองค์กร 1 ตำแหน่ง และ ด้านการส่งเสริมประชาธิปไตย การพัฒนาชุมชนหรือท้องถิ่น การเรียนรู้และศึกษา การคุ้มครองและพัฒนาเด็ก เยาวชนหรือครอบครัว หรือการส่งเสริมสิทธิของผู้ด้อยโอกาสทางสังคม 1 ตำแหน่ง

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 คณะกรรมการสรรหากรรมการนโยบาย องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย จึงออกประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเพื่อเข้าแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหากรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ดังต่อไปนี้

รายชื่อผู้เข้าแสดงวิสัยทัศน์ ช่วงเช้า

ระหว่างเวลา 08.00 – 12.30 น. จำนวน 18 คน ดังนี้

รายชื่อผู้เข้าแสดงวิสัยทัศน์ ช่วงบ่าย

ระหว่างเวลา 13.30 – 18.00 น. จำนวน 18 คน ดังนี้

ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องแสดงตนและวิสัยทัศน์ด้วยวาจาต่อที่ประชุมคณะกรรมการ สรรหากรรมการนโยบาย ในวันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ.2561 ตามลำดับในช่วงเวลาที่ระบุข้างต้น คนละไม่เกิน 15 นาที เพื่อดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด ดังนี้

(1) แนะนำตนเองพร้อมกับแสดงให้เห็นว่า เป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจ และมีความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ในด้านที่สมัคร
(2) แสดงวิสัยทัศน์ในการกำกับดูแลนโยบาย ส.ส.ท.
(3) ตอบคำถามหลักตามที่คณะกรรมการสรรหาฯ กำหนด และเลือกคำถามอีก 1 คำถาม เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ในการกำกับดูแลนโยบาย
(4) ไม่อนุญาตให้นำอุปกรณ์หรือข้อมูลอื่นประกอบการนำเสนอ

ผู้สมัครหรือผู้ได้รับการเสนอชื่อที่ไม่สามารถแสดงตน เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหาฯ ในวัน เวลาที่ระบุไว้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ถือว่าผู้สมัครหรือผู้ได้รับการเสนอชื่อนั้น สละสิทธิ์การขอรับการเสนอชื่อเป็นคณะกรรมการนโยบาย

กรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้คณะกรรมการสรรหากรรมการนโยบาย เป็นผู้วินิจฉัยและต้องมีมติไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของคณะกรรมการสรรหากรรมการนโยบายทั้งคณะ และให้ถือเป็นที่สุด