ความเคลื่อนไหว

เวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่ออนาคต ส.ส.ท. ที่ยั่งยืน

คณะกรรมการนโยบายและผู้บริหาร ส.ส.ท. ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะกรรมการ เพื่อแสวงหาแนวทางสร้างความมั่นคงทางการเงินอย่างยั่งยืนให้กับ ส.ส.ท. ภายใต้กรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 คณะกรรมการนโยบายและผู้บริหาร ส.ส.ท. ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะกรรมการ ที่ปรึกษากฎหมายของ ส.ส.ท. และ คณะกรรมการทบทวนพระราชบัญญัติ ส.ส.ท. พ.ศ. 2551 เพื่อแสวงหาแนวทางสร้างความมั่นคงทางการเงินอย่างยั่งยืนให้กับ ส.ส.ท. ภายใต้กรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ปัจจุบัน ส.ส.ท.ในฐานะสื่อสาธารณะแห่งเดียวในไทยดำเนินการผลิตและเผยแพร่ข่าวและรายการเพื่อประโยชน์สาธารณะในทุกช่องทางสื่อมาครบ 15 ปี โดยมีรายได้จากเงินบำรุงองค์การที่จัดเก็บจากผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยสุราและกฎหมายว่าด้วยยาสูบ สูงสุดไม่เกินปีละ 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันค่าของเงินดังกล่าวลดลงตลอดมา เนื่องจากสภาวะเงินเฟ้อในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ ส.ส.ท.มีผลิตภัณฑ์ทั้ง On Air และ Online เพิ่มมากขึ้นอย่างมาก

คณะกรรมการนโยบายตระหนักถึงความไม่สมดุลอันเนื่องมาจากรายได้ที่แท้จริงลดลงมาโดยตลอด นโยบายสร้างความมั่นคงทางการเงินจึงเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วน ในการนี้ได้จัดให้มีการพบปะแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์กับผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีประสบการณ์และความรู้ด้านการเงินการคลังและด้านกฎหมายอย่างสม่ำเสมอเพื่อแสวงหาหนทางที่จะทำให้อนาคตของสื่อสาธารณะแห่งนี้ดำเนินไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

ล่าสุด คณะกรรมการนโยบายและผู้บริหาร ส.ส.ท.ได้เชิญคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของ ส.ส.ท. และ คณะกรรมการทบทวนพระราชบัญญัติ ส.ส.ท. ร่วมแลกเปลี่ยนเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินที่ยั่งยืนของ ส.ส.ท. โดยเน้นในเรื่องกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อแสวงหาแนวคิดและทิศทางในการบริหารจัดการที่เหมาะสม เพื่อที่จะลดความเสี่ยงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อองค์การ ซึ่งกรรมการในคณะกรรมการทั้งสองชุดได้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางเพื่อให้ ส.ส.ท.ทำหน้าที่สื่อสาธารณะที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว

รองศาสตราจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ประธานกรรมการนโยบายขอบคุณคณะกรรมการทั้ง 2 คณะ ที่ช่วยสนับสนุนงานของ ส.ส.ท. มาโดยตลอด เพื่อให้ ส.ส.ท.ดำเนินภารกิจตามวัตถุประสงค์และพันธกิจ มีความน่าเชื่อถือและดำรงอยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ส.ส.ท ได้ประโยชน์อย่างมากโดยจะนำไปพิจารณาดำเนินการเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับสื่อสาธารณะแห่งนี้ต่อไป