ภารกิจหลัก

นโยบายการติดตามและประเมินผลการนำนโยบายไปปฏิบัติ


1.ความเป็นมา

มาตรา 27 (5) ของพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย(ส.ส.ท.) กำหนดให้
คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจหน้าที่ “ควบคุมการดำเนินงานของ คณะกรรมการบริหารให้เป็นไปตามนโยบายของคณะ
กรรมการนโยบาย” อันระบุชัดถึงความสำคัญและความจำเป็นของการกำกับดูแลให้การบริหารองค์การดำเนินไป อย่างมี
นโยบายหรือมีแนวคิดและทิศทางกำกับซึ่งจากการสำรวจและทบทวนนโยบายที่กำหนดโดยคณะกรรมการนโยบายส.ส.ท.
ในวาระปฏิบัติงานครบรอบ 1 ปี (สิงหาคม 2551-สิงหาคม 2552) คณะกรรมการ ฯได้ข้อสรุปว่านโยบายต่างๆในปัจจุบัน
กล่าวได้ว่ามีความครบถ้วนเพียงพอแก่ การนำไป บริหารองค์การ ทั้งใน ส่วนของนโยบาย พื้นฐานที่กำหนดไว้ ในพระราช
บัญญัติองค์การ และนโยบาย อื่นๆ ที่คณะกรรมการฯ ได้กำหนดเพิ่มเติมขึ้น ในระหว่างปี เพื่อให้การดำเนินงาน ของฝ่าย
บริหารมีแนวคิดและทิศทางที่ชัดเจนในการปฏิบัติงาน
เพื่อกำกับดูแลให้นโยบายทั้งหลาย ได้รับการนำไปปฏิบัติ คณะกรรมการฯ จึงเห็นความจำเป็นของการจัดวางกระบวน
การติดตามและประเมินผลการนำนโยบายไปปฏิบัติให้มีความชัดเจน เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบ และร่วมกัน ผลักดัน
ให้ส.ส.ท.ก้าวไปข้างหน้าโดยมีนโยบาย ,วิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยมหลัก (Core Value)ขององค์การเป็น กรอบกำกับ
และเพื่อมิให้นโยบายและการบริหารยึดติดอยู่แต่งานประจำ (Routine) และสภาพความจริงในเวลาปัจจุบันจน ละเลยต่อ
การคิดค้นความ ”แตกต่าง – สร้างสรรค์” อันจะนำไป สู่การพัฒนา นวัตกรรมทางนโยบาย และ ปฏิบัติการ แบบใหม่ คณะ
กรรมการนโยบายจึงได้กำหนด ”กระบวนการติดตามและประเมินผลการนำนโยบายไปปฏิบัติ” นี้ขึ้น
2.วัตถุประสงค์การติดตามและประเมิน
2.1 เพื่อติดตาม กำกับดูแลให้ นโยบายได้รับการนำ ไปปฏิบัติได้ อย่างสอดคล้อง ตรงกับแนวคิด และ ทิศทางของ
นโยบายที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด2.2 เพื่อให้นโยบายที่กำหนดไปแล้ว ได้รับการติดตาม และประเมินผลจากการปฏิบัติ เพื่อนำกลับมาทบทวน ปรับ
ปรุง และพัฒนาให้ก้าวหน้าเกิดประโยชน์สูงสุดแก่การพัฒนาองค์การได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

2.3 เพื่อกำกับดูแลการดำเนินงานและประเมินศักยภาพความสามารถในการนำนโยบายไปปฏิบัติของ ฝ่ายบริหาร
ตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายซึ่งกฎหมายกำหนดไว้

3. แนวทางของการติดตามและประเมิน
เพื่อให้การติดตามและประเมินเป็นกระบวนการหนึ่งของ การพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรแห่งการเรียนรู้ คณะกรรมการ
นโยบายได้กำหนดแนวทางของการติดตามและประเมินการนำนโยบายไปปฏิบัติไว้ดังนี้

3.1 มุ่งการสื่อสาร 2 ทาง เพื่อให้นโยบายได้รับการกำหนด และพัฒนาขึ้นจากการเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่าง ผู้กำหนด
นโยบายและผู้ปฏิบัติตามนโยบายในระดับต่างๆอย่างรอบด้านอันจะเอื้อให้เกิดความรู้สึกร่วมเป็นเจ้าของนโยบายในการ
พัฒนา ส.ส.ท.

3.2 มุ่งการใช้เครื่องมือ กลไก ช่องทางที่มีอยู่แล้วในการติดตามและประเมินนโยบาย โดยพยายามให้กิจกรรมดัง
กล่าวอยู่ในเนื้องานของผู้ปฏิบัติงาน และไม่เพิ่มภาระแก่ผู้เกี่ยวข้อง

3.3 มุ่งให้เกิดทัศนคติที่ดีต่อการติดตามประเมินและเห็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อตนเองหน่วยงานของตนและต่อ
ส.ส.ท.

4. การสนับสนุนการประเมิน
     การติดตามและประเมินจะดำเนินการผ่านเครื่องมือ กลไกและกระบวนการ ดังนี้
ี้
4.1 การประชุม คณะกรรมการนโยบายจะกำกับดูแล และติดตามความก้าวหน้าของการนำนโยบายไปดำเนินการ
โดยผ่านการประชุมต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

4.1.1 การประชุมของ คณะกรรมการ นโยบาย วาระทางการ ซึ่งมีเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ (เดือนละ 2 ครั้ง) โดย
กำหนดวาระของการรายงานความก้าวหน้าของฝ่ายบริหาร และความก้าวหน้าในเรื่องอื่นๆตามที่คณะกรรมการนโยบาย
กำหนด โดยมีการแจ้งวาระให้ทราบล่วงหน้าเพื่อการเตรียมข้อมูลมานำเสนอ

4.1.2 การประชุม ร่วมระหว่าง คณะกรรมการนโยบาย และคณะกรรมการบริหาร ซึ่งได้กำหนด ร่วมกันว่าให้มี ขึ้น
เดือนละ 1 ครั้ง โดยอาศัยการประชุมรอบหารือ (การประชุมระดมสมอง ซึ่งเป็นการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของคณะ
กรรมการนโยบายซึ่งจัดให้มีขึ้นสลับกับการประชุมทางการ) วาระสำคัญของ การประชุมร่วมดังกล่าว คือการร่วมปรึกษา
หารือการประสานแนวคิดและแนวปฏิบัติในภารกิจของคณะกรรมการทั้ง2คณะจากงานที่ดำเนินการอยู่ในแต่ละช่วงเวลา

4.1.3 การประชุมระหว่างคณะกรรมการนโยบายและผู้อำนวยการสำนักจัดให้มีขึ้นทุก3เดือนก่อนที่คณะกรรมการ
นโยบายจะสรุปงานในแต่ละไตรมาสเพื่อรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมโดยตรงจากผู้บริหารอีกระดับหนึ่งซึ่งใกล้ชิดกับการ
นำนโยบายไปปฏิบัติมากที่สุดเ พื่อเก็บรวบรวมข้อมูลให้รอบด้านมากยิ่งขึ้นก่อนปรับปรุงพัฒนานโยบายและวิธีการกำกับ
ดูแลงาน ในแต่ละไตรมาส ของ คณะกรรมการนโยบาย และเป็นโอกาส ให้เกิดการ ศึกษาเรียนรู้ และ สร้างความคุ้นเคย
ระหว่างงานเชิงความคิดและงานด้านปฏิบัติในเพิ่มมากขึ้นในองค์การ

4.2 คณะกรรมการตรวจสอบ (ประเมินภายใน)ให้คณะกรรมการตรวจสอบซึ่งขึ้นต่อคณะกรรมการนโยบายและเป็น
ผู้ควบคุมการปฏิบัติงานของสำนักตรวจสอบภายใน เป็นกลไกการประเมินภายใน เพื่อติดตามและประเมินความก้าวหน้า
ของฝ่ายบริหารในระดับต่าง ๆ แล้วรายงานผลให้ คณะกรรมการนโยบายรับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาให้คำชี้แนะ
ในการพัฒนาการปฏิบัติงานของฝ่ายบริหาร

        4.3 คณะกรรมการประเมินภายนอกให้คณะกรรมการประเมินภายนอกซึ่งคณะกรรมการนโยบายแต่งตั้งจากบุคคล
ภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านการประเมิน เป็นกลไกอิสระ ในการประเมิน ส.ส.ท.ในภาพรวมทุกด้านตามที่ กฎหมาย
กำหนด แล้ว เสนอผลการประเมินและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงและพัฒนางานนโยบายและการบริหาร
ของส.ส.ท.ในแต่ละป

กระบวนการติดตามและประเมินดังที่กล่าวมา ให้มีการบันทึก เป็นเอกสารทุกครั้ง เพื่อประโยชน์ในการติดตาม และ
ประเมินได้อย่างต่อเนื่องเป็นระบบ พร้อม ทั้งให้มีการส่งต่อถึงผู้เกี่ยวข้องในระดับต่าง ๆ อย่างทั่วถึง เพื่อให้รับทราบและ
เรียนรู้ผลการติดตาม-ประเมินนโยบาย


5.เกณฑ์การประเมินผลลัพธ์การนำนโยบายไปปฏิบัติงาน

การประเมินประสิทธิภาพ-ประสิทธิผลของการนำนโยบายไปปฏิบัติของผู้อำนวยการและคณะกรรมการบริหาร ในแต่
ละปี ให้คณะกรรมการทั้ง 2 คณะร่วมกันกำหนด สำหรับปี 2552คณะกรรมการ ทั้ง 2 คณะได้ร่วมกันกำหนดกรอบการ
ประเมินผลการปฏิบัติงาน โดยอิงผลการปฏิบัติงานตาม “แผนการดำเนินงานตามกรอบประเด็นเป้าหมาย เชิงนโยบาย
และยุทธศาสตร์ ส.ส.ท. 2552” และประเมินตาม ข้อสรุปของการปรับปรุงที่ฝ่ายบริหารกำหนดไว้ใน “สรุปผลการปฏิบัติ
งานตามแผนงานภายใต้ประเด็นยุทธศาสตร์ของแผนแม่บทการพัฒนา ส.ส.ท. รอบ 6 เดือน”

จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

ประกาศ ณ วันที่ 10 กันยายน พ.ศ.2552

(ศาสตราจารย์เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม)
ประธานกรรมการนโยบาย องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย